10 เรื่อง ที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด แต่ถ้ารู้แล้วชีวิตจะดีขึ้นทันตา !! l EP.35

“เพราะสังคมที่ปลอดภัย เริ่มจากบ้านที่ใส่ใจ” กล้องวงจรปิดเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากๆในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับบ้านและธุรกิจของคุณ แต่คนส่วนใหญ่อาจจะยังยึดติดอยู่กับความเชื่อหรือความเข้าใจที่ผิดๆ จึงอาจจะมองกล้องวงจรปิดในแง่ลบ, เป็นเรื่องยุ่งยาก, ไกลตัว, หรือมีราคาแพง ซึ่งข้อมูลที่คนส่วนมากเชื่อกันอาจไม่เป็นความจริงไปเสียทีเดียว หรืออาจจะมีการปรับปรุงพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาเก่าๆรวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายได้มากขึ้น ซึ่งหากคุณรู้ ชีวิตของคุณจะดีขึ้นทันตาเลยทีเดียว !! 

1.กล้องวงจรปิด ใช้ที่ไหนก็เหมือนกัน

เมื่อพูดถึงกล้องวงจรปิด หลายๆคนก็อาจจะนึกถึงกล้องวงจรปิดแบบที่เห็นตามข่าวหรือตามสถานที่สาธารณะต่างๆ แต่จริงๆแล้ว กล้องวงจรปิดมีหลายแบบมากๆจนเรียกได้ว่า “ใช้ผิด ชีวิตเปลี่ยน” เลยทีเดียว โดยหลักๆแล้วกล้องวงจรปิดก็จะแบ่งได้เป็น 2 แบบ ได้แก่ สำหรับใช้งานภายนอก และภายใน ซึ่งกล้องวงจรปิดทั้งสองแบบนี้จะถูกออกแบบให้ใช้งานได้ต่างกัน โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดสำหรับใช้งานภายในที่มักจะไม่ค่อยทนแดดทนฝนสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้เน้นฟีเจอร์กันน้ำ หากเอาไปติดตั้งนอกบ้านแล้วฝนตกละก็ เตรียมบอกลาได้เลย !!

นอกจากนี้กล้องวงจรปิดสำหรับใช้งานภายนอก มักจะมีระบบอินฟราเรดหรือ Full Color ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในระยะไกล ทำให้ได้ภาพที่ดีในตอนกลางคืนที่ไม่มีแสง แม้กล้องวงจรปิดสำหรับใช้งานภายในหลายๆรุ่นจะมีอินฟราเรดด้วย แต่ก็มักจะมีระยะที่สั้นกว่า เหมาะสำหรับใช้ในห้องหรือออฟฟิศ หากนำมาใช้งานภายนอกหรือใช้ในที่ที่กว้างมากๆ ก็จะทำให้มองสิ่งที่อยู่ห่างออกไปได้ไม่ชัดเท่าที่ควรครับ ดังนั้นควรเลือกใช้กล้องวงจรปิดให้เหมาะสมตามการใช้งานด้วย เพื่อให้ได้คุณภาพและความปลอดภัยที่ดีที่สุดครับ

2. กล้องวงจรปิดทุกรุ่นให้ภาพเหมือนๆกัน

เป็นอีกเรื่องที่ไม่เป็นความจริงเลย เพราะกล้องวงจรปิดต่างรุ่น ก็มีสเปคกล้องที่ต่างกัน รวมถึงฟีเจอร์สนับสนุนอื่นๆที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย เหมือนกับสมาร์ทโฟนที่แต่ละรุ่นก็มีกล้องที่ดีแย่แตกต่างกัน ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาได้ก็จะมีคุณภาพที่ไม่เท่ากันครับ

ยกตัวอย่าง เช่น กล้องวงจรปิดรุ่น WIOT1018Z จาก Watashi และ TIOT1001 จาก TCT ที่มีราคาถูกมาก แต่ได้ตัวกล้องที่มีความคมชัดมากถึง 3 ล้านพิกเซล (3MP) หากเทียบกับกล้องวงจรปิด 2MP ทั่วๆไปที่ราคาเท่ากัน กล้องวงจรปิดจาก Watashi และ TCT จะให้ภาพที่คมชัดมากกว่าถึง 50% และบันทึกคลิปได้ที่ความละเอียด 2K ซึ่งสูงกว่าหนัง Full HD ซะอีก ทำให้ได้ภาพที่ชัดกว่า ซูมได้มากกว่า โดยที่ภาพไม่แตกและยังคงรายละเอียดที่ครบถ้วนครับ ดังนั้นการเลือกกล้องวงจรปิดที่ดีมีคุณภาพ เรื่องสเปคตัวกล้องก็ถือเป็นหัวใจสำคัญเลยทีเดียว

3. กล้องวงจรปิด จำเป็นต้องเดินสายรุงรัง แถมมีราคาแพงใช้เงินลงทุนเยอะ

นั่นเป็นความเชื่อแบบเก่า จริงๆแล้วใน กล้องวงจรปิด สมัยใหม่ๆจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นในราคาที่ถูกลง ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อวาตาชิหรือ TCT ที่เป็นแบรนด์ยอดนิยมในไทย ก็มีกล้องวงจรปิดไร้สายดีๆให้เลือกใช้ในราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อยบาทเท่านั้นเอง ซึ่งกล้องวงจรปิดกลุ่มนี้จะเรียกว่า กล้องวงจรปิด WiFi สามารถเชื่อมต่อ WiFi ดูภาพออนไลน์แบบเรียลไทม์รวมถึงควบคุมกล้องได้ง่ายๆผ่านแอพในมือถือของคุณได้จากทุกที่เลย นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลคลิปวิดีโอบนคลาวด์ (Cloud) หรือ SDCard ที่ตัวกล้องได้เลยด้วย ทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินสายข้อมูลให้รกรุงรังและไม่ต้องลงทุนติดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ด้วย เพราะคุณสามารถใช้คลาวด์ได้เลยฟรีๆ กล้องรุ่นใหม่ๆพวกนี้ จึงใช้งานได้ง่ายผ่านแอพ ติดตั้งก็ง่าย เก็บข้อมูลก็สะดวกมากๆเลยครับ

นอกจากนี้การเก็บข้อมูลบนคลาวด์ยังมีความปลอดภัยมากกว่าการเก็บข้อมูลแบบปกติด้วย เพราะหากโจรขโมยกล้องวงจรปิดหรือทำลายทิ้งไป ข้อมูลที่บันทึกไว้บนคลาวด์ก็จะไม่หายไปไหน สามารถย้อนดูได้ผ่านแอพบนมือถือของคุณได้เลย การเก็บข้อมูลบน Cloud จึงถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากที่สุดวิธีนึงเลยแถมยังสะดวกอีกด้วย

4. ขนาดเซ็นเซอร์ของกล้องวงจรปิด ไม่มีความสำคัญ

แม้ว่าคุณจะเข้าใจเรื่องจำนวนพิกเซลที่ส่งผลต่อความคมชัดและขนาดของภาพแล้ว อีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ไม่แพ้กันเลยก็คือ “ขนาดเซ็นเซอร์” ของกล้องวงจรปิดครับ โดยขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่าก็มักจะมีคุณภาพที่ดีกว่า แม้จำนวนพิกเซลจะน้อยกว่าก็ตาม เพราะขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้แต่ละพิกเซลมีขนาดใหญ่ขึ้น เก็บแสงได้มากขึ้น เก็บรายละเอียดของภาพได้ดีขึ้น ทำให้ภาพมีความคมชัดและรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม

แต่เพราะคนส่วนมากยังไม่เข้าใจเรื่องขนาดของเซ็นเซอร์มากนัก ทำให้กล้องวงจรปิดที่ไม่มีคุณภาพหลายๆรุ่นมักจะขายจุดเด่นที่ความคมชัด 2 ล้านพิกเซลหรือ 3 ล้านพิกเซล เท่ากับกล้องรุ่นอื่นๆแต่แอบซ่อนสเปคเซ็นเซอร์เอาไว้ ทำให้เราเข้าใจผิดได้ว่าจะได้ภาพคมชัดเทียบเท่ากล้องวงจรปิดยี่ห้อดีๆที่มีจำนวนพิกเซลเท่ากัน ซึ่งจริงๆแล้วภาพที่ได้ อาจเป็นคนละเรื่องเลย 

แล้วขนาดเซนเซอร์เท่าไหร่ถึงจะดีล่ะ? สำหรับกล้องวงจรปิดทั่วๆไปก็จะแนะนำขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่า 1/3" หรือ 8.46 มิลลิเมตรขึ้นไป เพื่อให้สามารถรับแสงได้ดี ครบถ้วน มีรายละเอียดภาพที่ดีครับ โดยตัวอย่างกล้องวงจรปิดที่มีเซนเซอร์ที่ดีก็เช่น กล้องนางฟ้า หรือ WIOT1029C จากวาตาชิที่มีขนาดเซนเซอร์กล้องอยู่ที่ 1/2.8" หรือ 9.07 มิลลิเมตรเลยนั่นเอง และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำไมกล้องวงจรปิดของวาตาชิถึงบันทึกภาพได้สวยกว่าและมีรายละเอียดดีกว่ากล้องทั่วๆไปที่มีความคมชัด 3 ล้านพิกเซลเท่าๆกัน นั่นก็เพราะ “เซ็นเซอร์ที่มีคุณภาพ” นั่นเอง

5. กล้องวงจรปิดทุกรุ่นบันทึกคลิปออกมาเหมือนกัน

แม้กล้องวงจรปิดส่วนใหญ่จะบันทึกคลิปออกมาเป็นไฟล์วิดีโอที่คุณก็เปิดดูได้ตามปกติทั้งหมด แต่ตัวคลิปก็ใช่ว่าจะเหมือนกันไปซะทีเดียว เพราะมีเรื่องขนาดภาพ ขนาดไฟล์ และเทคโนโลยีในการบันทึกภาพด้วย ซึ่งส่งผลกับทั้งคุณภาพรายละเอียดของภาพและความยาวคลิปที่คุณสามารถบันทึกเก็บไว้ได้ตรงๆ หากคุณรู้เรื่องนี้ ก็จะสามารถเลือกกล้องวงจรปิดที่เหมาะกับคุณได้ง่ายขึ้น และเข้าใจสเปคกล้องมากขึ้น ไม่โดนหลอกง่ายๆด้วยครับ

โดยเรื่องขนาดภาพที่บันทึกได้ ก็จะมีขนาดตามจำนวนพิกเซลของกล้องครับ เช่น

ความละเอียดของกล้อง ขนาดวิดีโอที่บันทึกได้

• CIF 352x240 พิกเซล (ดูแทบไม่รู้เรื่อง)
• 2CIF 704x240 พิกเซล (ดูแทบไม่รู้เรื่อง)
• 4CIF 704x480 พิกเซล (ภาพแตกมาก ซูมดูไม่รู้เรื่อง)
• 1.3 MP 1280x1024 พิกเซล (พอใช้ได้ คล้ายดูหนัง HD)
• 2 MP 1600x1200 พิกเซล (ดี คล้ายดูหนัง FHD)
• 3 MP 2048x1536 พิกเซล (ดีมาก ชัดกว่าหนัง FHD ซูมภาพเพื่อดูรายละเอียดต่างๆได้มากขึ้น)

ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งคุณภาพคลิปมากขึ้น มีรายละเอียดความคมชัดที่มากขึ้น ก็มักจะกินพื้นที่เยอะขึ่น (มีขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้น) ทำให้เก็บคลิปได้น้อยลงเทียบกันคลิปที่คุณภาพต่ำกว่า เช่น หากใช้ SDCard หรือฮาร์ดดิสก์ที่เคยเก็บได้ 3,000 ชั่วโมง พอใช้กล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพใหญ่ขึ้นชัดขึ้น ก็อาจจะเหลือ 2,000 ชั่วโมง เป็นต้น

แต่เทคโนโลยีในการบันทึกไฟล์ก็ช่วยเพิ่มคุณภาพและลดขนาดคลิปได้มากมายเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น H.265 ที่เป็นเทคนิคในการบันทึกแบบใหม่ จะได้คุณภาพที่สูงกว่า H.264 แบบเดิมและยิ่งลดขนาดไฟล์ลงได้มากถึง 40% ด้วย ทำให้เก็บคลิปได้นานขึ้นกว่าเก่ามากๆ โดย H.265 เป็นเทคโนโลยีในการบันทึกคลิปที่ใหม่มาก พบได้ในกล้องวงจรปิดรุ่นท็อปตัวใหม่ๆหรือสมาร์ทโฟนรุ่นดีๆในตอนนี้เท่านั้นครับ แต่แบรนด์กล้องวงจรปิดบางแบรนด์ก็ทำกล้องรุ่นประหยัดที่รองรับ H.265 ได้ด้วย เช่น กล้องวงจรปิด Watashi WIOT1030FD-3M ที่บันทึกภาพด้วยความคมชัดมากถึง 3 ล้านพิกเซล (3MP) ชัดที่สุดในตลาดราคาเดียวกันและบันทึกแบบ H.265 ได้ด้วย จึงเป็นกล้องวงจรปิดรุ่นเริ่มต้นที่คุ้มค่ามากๆครับ

6. กล้องวงจรปิดราคาแพงกว่า ต้องดีกว่า

“สินค้าอะไรก็ตาม เมื่อมีราคาสูงกว่า ก็ย่อมดีกว่าหรือได้อะไรที่มากกว่า” ความเชื่อนี้ก็จริงอยู่.. แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่แพงกว่าแล้วจะดีกว่าเสมอไป ของที่ถูกและดีกว่าก็มีเช่นกัน

ดังนั้นในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด ไม่ควรดูแค่ราคาหรือสเปคเบื้องต้นที่โชว์เด่นๆหน้าสินค้า แต่ควรเทียบสเปคอย่างละเอียดและใส่ใจ คุณอาจจะเจอของที่ดีกว่ามากๆในราคาที่ถูกกว่าแบรนด์ทั่วๆไปก็ได้ 

ยกตัวอย่างเช่น กล้องวงจรปิดรุ่น TIOT1002Z จากแบรนด์ TCT ที่ราคาหลักร้อยบาท ได้สเปคกล้อง 3 ล้านพิกเซล (3MP) มากกว่ากล้องส่วนใหญ่ในตลาดที่มีแค่ 2 ล้านพิกเซลในราคาเท่ากัน แถมยังมี AI ที่ฉลาดมากๆ สามารถแยกแยะมนุษย์และยานพาหนะได้ รับรู้และแจ้งเตือนได้ทันทีหากมีคนข้ามเข้ามาในเขตพื้นที่ของเรา แถมยังนับจำนวนคนเข้า-ออกและบันทึกเป็นสถิติเก็บไว้ได้ด้วย ฟีเจอร์ AI ที่ฉลาดขนาดนี้มักจะพบได้แค่ในกล้องวงจรปิดราคาหลักหมื่นบาทขึ้นไปเท่านั้น แต่แบรนด์ TCT แบรนด์น้องใหม่ที่พึ่งเข้ามาทำตลาด ก็ใส่เข้ามาให้ ในกล้องวงจรปิดราคาแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง คุ้มค่ามากๆเลยนะ 

ดังนั้นการเทียบสเปคและราคากับแบรนด์/ยี่ห้อต่างๆก็เป็นสิ่งที่จำเป็น คุณอาจจะได้เห็นได้พบกล้องรุ่นที่เหมาะกับคุณและคุ้มค่ามากๆเลยก็ได้

7. กล้องวงจรปิด ยิ่งมุมมองกว้าง ยิ่งดี

ยิ่งกล้องวงจรปิดที่มีมุมมองภาพกว้าง ก็จะมองเห็นสิ่งรอบตัวได้มากขึ้น แต่สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ ระยะในการมองก็ย่อมน้อยลงด้วย ทำให้อาจมองได้ไม่ไกลพอ บันทึกเหตุการณ์สำคัญๆที่อยู่ไกลออกไปไม่ได้ด้วยเลนส์มุมมองกว้างๆ ในทางกลับกันกล้องวงจรปิดที่มีมุมมองแคบๆ ก็จะมีระยะในการมองภาพได้ไกลขึ้นด้วย ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ ดังนั้นเราจึงควรเลือกกล้องวงจรปิดที่มีมุมมองและระยะภาพที่เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานของเรา 

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตามท้องถนนถึงมีกล้องวงจรปิดในที่เดียวกันหลายๆตัว เพราะแต่ละตัวจะมีมุมมองและระยะที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้บันทึกภาพเหตุการณ์สำคัญได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกลอย่างชัดเจนนั่นเอง แต่ในการใช้งานแบบบ้านๆทั่วไป คุณไม่ได้จำเป็นต้องติดกล้องวงจรปิดหลายตัวในจุดเดียวแบบนั้น คุณสามารถเลือกกล้องวงจรปิดที่มีมุมมองและระยะเหมาะๆแบบพอดีๆเพียงตัวเดียวเลย ก็ได้เช่นกัน เช่น กล้องวงจรปิด IMOU Ranger 2 4MP ที่มีมุมมองกว้างอยู่ที่ 93 องศา ซึ่งมากกว่ามุมฉากเล็กน้อย สามารถติดตั้งที่มุมห้อง/มุมอาคารแล้วมองเห็นภาพได้แบบครอบคลุมครบถ้วนเลยทีเดียว อีกทั้งมุมมองยังไม่กว้างจนเกินไป ทำให้มีระยะภาพที่พอดี สามารถมองได้ไกลทั่วถึงทุกบริเวณห้องที่ติดตั้งเลยครับ

8.ถ้าติดกล้องวงจรปิดในบ้าน แล้วถ่ายติดภาพคนอื่น จะผิดกฏหมาย PDPA

เมื่อไม่นานมานี้กฏหมาย PDPA ได้ถูกนำมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งหลายๆคนอาจเข้าใจผิดได้ว่าการติด กล้องวงจรปิด ในบ้านตัวเองจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก หรืออาจมีปัญหาตามมา หากถ่ายติดใครเข้าแล้วเขาไม่ยินยอม แต่ความจริงแล้วคุณสามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อใช้ในพื้นที่ส่วนตัวของคุณได้ หากถ่ายภาพ/วิดีโอติดผู้อื่นโดยไม่เจตนาและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ที่ถูกถ่าย ก็ไม่ผิด PDPA ไม่มีปัญหาครับ

9.ติดกล้องวงจรปิด ต้องมีป้ายแจ้งเตือนด้วยเท่านั้น

ก็เป็นอีกประเด็นที่หลายๆคนอาจจะกลัวว่า “ถ้าติดกล้องวงจรปิดแล้วไม่ติดป้ายบอก จะผิดกฏ PDPA นะ” จริงๆแล้วถ้าหากคุณติดตั้งภายในบ้าน/พื้นที่ส่วนตัวของคุณเอง คุณไม่จำเป็นต้องทำป้ายบอกใครก็ได้ เพราการใช้กล้องวงจรปิดภายในบ้านก็เพื่อป้องกันอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินและตัวคุณเอง (จะติดป้ายบอกให้โจรรู้ทำไมล่ะ จริงไหม?) ดังนั้นถ้าคุณแค่ต้องการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัว ก็สามารถทำได้เลย ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ

แต่ถ้าหากติดตั้งในพื้นที่สาธารณะ เช่น ร้านค้า หรือในธุรกิจของคุณ ก็จำเป็นต้องมีป้ายแจ้งเตือนด้วยนะครับ สามารถศึกษาข้อมูลเรื่อง PDPA กับกล้องวงจรปิดได้ที่นี่เลย: https://www.watashi.co.th/blogs/home-security-function/3-requirements-pdpa-l-ep-24 

10.กล้องวงจรปิดคุณภาพดี ต้องเป็นแบรนด์ต่างประเทศเท่านั้น

เมื่อพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ไอที คนไทยด้วยกันก็มักจะคิดว่าประเทศไทยอาจจะดูน่าเชื่อถือน้อยกว่าประเทศอื่นๆ จึงมักจะยอมจ่ายเงินแพงๆซื้อจากแบรนด์ต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะประเทศตะวันตก ยิ่งมีความน่าเชื่อถือ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกและเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะประเทศไทยเรามีแบรนด์กล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพดีและเทคโนโลยีล้ำๆไม่แพ้แบรนด์ดังๆจากต่างประเทศดังๆ โดยแบรนด์กล้องวงจรปิดดีๆฝีมือคนไทยแท้ๆก็เช่น TCT แบรนด์น้องใหม่ที่พึ่งเกิดมาเพื่อจัดการกล้องวงจรปิดรุ่นแพงๆในราคาที่ถูกกว่า และแบรนด์ Watashi แบรนด์ กล้องวงจรปิดอันดับ 1 ในไทยฝีมือคนไทยแท้ๆ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการจัดจำหน่ายและพัฒนาผลิตภันฑ์กล้องวงจรปิดมามากกว่า 100 รุ่น ทั้งกล้องวงจรปิดภายในและกล้องวงจรปิดภายนอก รวมถึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ทั้งในด้านอุปกรณ์และซอฟแวร์อีกด้วย เห็นไหม ประเทศไทยเองก็มีแบรนด์เทคโนโลยีล้ำๆเหมือนกันนะ !!

ทั้งหมดนี้ก็คือความเชื่อผิดๆที่คนส่วนใหญ่คิดเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดครับ ในบทความนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนไทยจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดมากขึ้น ได้ความรู้เกี่ยวกับกล้องวงจรปิดมากขึ้น และถ้าหากคุณกำลังหาซื้อกล้องวงจรปิดดีๆอยู่ ก็สามารถดูสินค้าเพิ่มเติมและปรึกษาหากล้องที่เหมาะกับคุณได้ที่ไลน์แอด @watashicctv เลยครับ มีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ และมีกล้องวงจรปิดดีๆมากมายหลายรุ่นให้เลือกใช้ และรับรองว่าต้องมีที่เหมาะกับคุณแน่นอนครับ